การประชุม BOE ที่สำคัญ

ผู้เทรดฟอเร็กซ์มืออาชีพและมีประสบการณ์ต้องรู้ว่าวันที่ประกาศข่าวทางการเงินมีความสำคัญมาก ปัจจุบันมีเว็บไซต์หลายแห่งที่แสดงปฏิทินข่าวเศรษฐกิจล่าสุด ทำให้ง่ายต่อนักลงทุนที่จะค้นหาข้อมูลทุกอย่างที่ต้องการ เพื่อให้รู้กำหนดวันของการประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจดังกล่าว การทราบวันประกาศที่แน่นอนทำให้สามารถวางแผนผลยุทธ์ล่วงหน้า และเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดในช่วงที่มีการประกาศ ก่อนและระหว่างการประกาศข่าวเศรษฐกิจ ตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าปกติ เนื่องจากราคาของสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และสถานการณ์จะดำเนินต่อไปจนกว่าตลาดจะรับรู้ข่าวการประกาศ หลังจากนั้นตลาดจะกลับมาปกติ ขณะที่ตลาดอยู่ในสภาวะไม่แน่นอน นักลงทุนต้องตัดสินใจว่าจะงดเว้นจากการเทรด และกำจัดความเสี่ยงของการสูญเสียเงินหรือเลือกที่จะเทรดเพื่อใช้โอกาสนี้ทำเงินในตลาดที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และทำกำไรให้มากกว่าที่คาดหวัง การใช้ปฏิทินเศรษฐกิจเพื่อติดตามวันประกาศข่าวที่สำคัญ เช่นการประชุม BoE ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เทรด เพราะเหตุการณ์เหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อคู่สกุลเงินและราคาสินทรัพย์

BoE คืออะไร

BoE (Bank of England) คือธนาคารแห่งอังกฤษ ซึ่งเป็นธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร บางครั้งเรียกว่า “Old lady of Threadneedle Street” ธนาคารแห่งอังกฤษมีหน้าที่รับผิดชอบการส่งเสริมความมั่งคั่งของประชากรสหราชอาณาจักร โดยรักษาความมั่นคงทางการเงินและการคลัง ธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) เป็นเจ้าของโดยรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งต้องกำหนดนโยบายการเงินที่เป็นอิสระจากรัฐบาลของประเทศ หน้าที่คือการจัดการสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง ออกธนบัตรภายในเวลส์และสหราชอาณาจักร ตลอดจนตรวจสอบการพิมพ์ธนบัตรในไอร์แลนด์เหนือและสกอตแลนด์ นอกจากนี้ยังต้องรับผิดชอบการรักษาความมั่นคงทางการเงินในประเทศโดยทำให้ราคาของสกุลเงินอังกฤษมั่นคงและเพิ่มความมั่นใจ MPC หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งอังกฤษทำสิ่งนี้ผ่านการกำหนดอัตราดอกเบี้ย อีกหน้าที่หนึ่งคือการรักษาความมั่นคงทางการเงินภายในสหราชอาณาจักร โดยการทำให้ระบบธนาคารดำเนินไปอย่างราบรื่น และทำให้แน่ใจว่าประชาชนเชื่อมั่นสถาบันทางการเงินของสหราชอาณาจักร

สมาชิกของคณะกรรมการนโยบายการเงินมีใครบ้าง

สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารแห่งอังกฤษจะจัดการประชุมเป็นประจำเพื่อหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ และกำหนดอัตราดอกเบี้ยของชาติให้เป็นไปตามเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย 2% ที่ตั้งไว้โดยรัฐบาล

คณะกรรมการนโยบายการเงินมีสมาชิก 9 คน ในจำนวน 5 คน เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารและผู้ว่าการเองรวมทั้งรองผู้ว่าการ 3 คน และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร สมาชิกอีก 4 คน คือผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ได้รับเลือกจากภายนอก ซึ่งมีความชำนาญและประสบการณ์ด้านนโยบายการเงินกับเศรษฐกิจ

สมาชิกปัจจุบันของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ได้แก่

• Mark Carney – ผู้ว่าการ (วาระการแต่งตั้ง 1 กรกฎาคม 2013 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2021)
• Ben Broadbent – รองผู้ว่าการ นโยบายการเงิน (วาระการแต่งตั้ง 1 กรกฎาคม 2014 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2019)
• Nemat (Minouche) Shafik – รองผู้ว่าการ การตลาดและการธนาคาร (วาระการแต่งตั้ง 1 สิงหาคม 2014 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2019)
• Sir Jon Cunliffe – รองผู้ว่าการ ความมั่นคงทางการเงิน (วาระการแต่งตั้ง 1 พฤศจิกายน 2013 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2018)
• Andrew Haldane – กรรมการบริหาร การวิเคราะห์การเงินและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ (วาระการแต่งตั้ง 1 มิถุนายน 2014 ถึง 31 พฤษภาคม 2017)
• Kristin Forbes – สมาชิกภายนอก (วาระการแต่งตั้ง 1 กรกฎาคม 2014 ถึง 30 มิถุนายน 2017)
• Ian McCafferty – สมาชิกภายนอก (วาระการแต่งตั้ง 1 กันยายน 2012 ถึง 31 สิงหาคม 2018)
• Michael Saunders – สมาชิกภายนอก (วาระการแต่งตั้ง 9 สิงหาคม 2016 ถึง 9 สิงหาคม 2019)
• Dr. Gertjan Vlieghe – สมาชิกภายนอก (วาระการแต่งตั้ง 1 กันยายน 2015 ถึง 31 สิงหาคม 2018)

มีการประชุม BoE บ่อยแค่ไหน

คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งอังกฤษะจัดการประชุมในแต่ละเดือนของทุกปี เพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตาม การประชุมที่จัดขึ้นวันที่ 15 กันยายน 2016 ได้เปลี่ยนเป็นโปรแกรมการประชุม 8 ครั้งต่อปี ตามคำแนะนำของ Warsh Review ก่อนการประชุมทุกครั้งจะมีการสรุปข้อมูลที่ได้รับมาจาก MPC เกี่ยวกับสภาวะของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งการรวบรวมโดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งอังกฤษ เพื่อทำการสรุปดังกล่าวจึงมีการประชุมเป็นเวลาครึ่งวันทุกสัปดาห์ก่อนที่จะถึงวันประชุม BoE ตามกำหนดการ การประชุมธนาคารแห่งอังกฤษจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน โดยที่การประชุมครั้งแรกจะจัดขึ้นวันพฤหัสบดีก่อนที่การตัดสินใจครั้งสุดท้ายจะถูกสรุป ระหว่างการประชุมนี้ สมาชิกของคณะกรรมการจะแสดงความคิดเห็น และอธิบายเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจที่เพิ่งประกาศ ในการประชุมครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นวันจันทร์หลังจากการประชุมครั้งแรก สมาชิกคณะกรรมการจะอภิปรายทิศทางของนโยบายที่ควรจะเป็น ส่วนครั้งที่ 3 และการประชุมครั้งสุดท้ายมักจัดขึ้นวันพุธ ซึ่งเป็นการหารือครั้งสุดท้ายตามด้วยการโหวตระดับของอัตราดอกเบี้ย การตัดสินใจสุดท้ายจะประกาศเวลา 12.00 น. ของวันพฤหัสบดี พร้อมด้วยรายงานการประชุมทั้งหมด

การประชุม BoE ครั้งต่อไปคือเมื่อไร

การติดตามวันที่ของการจัดประชุม BoE คือสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่จริงจัง นี่คือกำหนดการ ของการประชุม MPC ธนาคารแห่งอังกฤษ ซึ่งจะจัดขึ้นในปี 2018

ตารางการประชุม BOE ของปี 2018

2 พฤศจิกายน

เดือน	วันที่
กุมภาพันธ์	2
มีนาคม	16
พฤษภาคม	11
มิถุนายน	15
สิงหาคม	3
กันยายน	14
ธันวาคม	14

ทำไมการประชุมธนาคารแห่งอังกฤษจึงสำคัญ

ผู้เทรดในตลาดการเงินยอมรับว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นมาจากการวิเคราะห์พื้นฐานและการใช้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจ การรู้วันประกาศข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญจะทำให้ผู้เทรดฟอเร็กซ์สามารถเตรียมตัวรับมือกับการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงิน และวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้ วันประชุมของธนาคารแห่งอังกฤษคือส่วนหนึ่งที่สิ่งสำคัญที่สุดในปฏิทินเศรษฐกิจ เพราะการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นย่อมกระทบต่อนโยบายการเงินของสหราชอาณาจักร และส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยของประเทศ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะทำให้เงินปอนด์สเตอร์ลิงมีการเปลี่ยนแปลงในตลาดฟอเร็กซ์ และแน่นอนว่าจะมีผลต่อทุกคู่สกุลเงินทั่วโลก ในช่วงของการประชุม BoE นักลงทุนที่สนใจจะคาดการณ์ไปต่างๆ นานาถึงผลการตัดสินใจของ MPC ดังนั้นตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศจะผันผวนไปจนกว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นที่ทราบโดยทั่วกัน การทราบวันที่ล่วงหน้าจะทำให้ผู้เทรดสามารถเตรียมตัวและตัดสินใจได้ว่าจะทำการเทรด หรือไม่ดำเนินการใดๆ เลยกับตลาดในช่วงเวลานั้น

คำแนะนำเกี่ยวกับประเภทของออปชันที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดข่าวในช่วงการประชุม BoE

แม้ว่าผู้เทรดฟอเร็กซ์จำนวนมากจะไม่เทรดในช่วงที่มีการประชุม BoE เพื่อลดความเสี่ยงจากการสูญเสีย แต่มีผู้เทรดที่ชอบการเปลี่ยนแปลงของตลาดในช่วงเวลาดังกล่าว และต้องการใช้โอกาสนี้ทำกำไร การกลับตัวของราคาเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในช่วงการประกาศข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น การประชุม BoE ทำให้การเทรดข่าวแบบสวนทางเป็นกลยุทธ์ที่อันตรายมากขึ้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำกำไรในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทักษะการจัดการความเสี่ยงและเทคนิคการจัดการเงินระดับสูงคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์ดังกล่าว ผู้ที่ต้องการทดลองกลยุทธ์นี้ต้องหาระดับแนวรับและแนวต้านก่อนการประกาศข่าว จากนั้นควรรอจนกว่าจะมีการประกาศข่าว และให้ติดตามราคาทันทีเพื่อดูว่าถึงระดับแนวรับหรือแนวต้านหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้นักลงทุนควรเฝ้าระวังเพื่อดูภาพรวมว่าแนวรับหรือแนวต้านสามารถใช้งานต่อได้หรือไม่ ผู้เทรดจะมองหาแนวรับที่กำลังเข้ามาในตลาดที่ระดับระยะยาวก่อนที่จะวางตำแหน่ง Long Position และวางคำสั่ง Stop ที่ด้านล่างระดับแนวรับ แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นเช่นนี้มันจะต้องพอดีกัน ถ้าการกลับตัวไม่เกิดขึ้นต้องนำตำแหน่งออกไปให้เร็วที่สุด หากระดับของแนวรับยังคงอยู่กับที่ นักลงทุนสามารถเพิ่มระดับเมื่อตำแหน่งเริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการให้มากที่สุด